ค่ำคืนหนึ่งของวันเสาร์ในย่านซิดนีย์ ผู้คนมากมายออกมาเที่ยวผับบาร์ ดื่มเหล้าเบียร์กันอย่างเมามัน เวลาดึกขึ้นเรื่อยๆ จนสมควรต่อการปิดร้านทำความสะอาด หลังจากที่พนักงานเก็บกวาดร้านเรียบร้อยแล้ว ต่างก็ทยอยกันกลับที่พัก จำนวนพนักงานเหล่านั้นมีนักเรียนไทยคนหนึ่งรวมอยู่ด้วย
ระหว่างทางที่เขาเดินไปยังป้ายรถประจำทาง ก็เหลือบเห็นฝรั่งวัยรุ่นสามสี่คนส่งเสียงดังโวยวายจากอาการเมามายไร้สติ แต่เขาก็เดินผ่านไปโดยไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย เพราะเห็นสิ่งเหล่านี้มาจนชินตา เขาล้วงกระเป๋าสะพายหยิบ MP3 ขึ้นมาฟังตามปกติ แต่หนึ่งในนั้นกลับเดินไล่หลังตามเขามา ยังไม่ทันจะตั้งตัว ฝรั่งคนนั้นก็พยายามเข้ามากระชากหูฟัง ทั้งยังทำท่าทางหยอกล้อกวนอารมณ์ เขาหันกลับไปจ้องอยู่ไม่นานก็ผลักไสฝรั่งให้ออกไปพ้นตัว แต่ด้วยความเมาจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ฝรั่งคนนั้นก็ยังพยายามที่จะเดินเข้าไปคว้าหูฟังอีกครั้ง เขาจึงผลักที่อกอย่างเต็มแรง จนฝรั่งล้มลง
เมื่อความคะนองเปลี่ยนไปเป็นความโมโห พอล้มลงไปได้ไม่นาน ฝรั่งคนนั้นก็รีบลุกขึ้นมา แล้วกระชากสายหูฟังพร้อมเครื่อง MP3 วิ่งหนีไปไกล เมื่อนักเรียนไทยวิ่งไล่ตามทันก็เกิดมีปากมีเสียงกันจนถึงขั้นใช้กำลัง ระหว่างที่เกิดเหตุวุ่นวายกันอยู่ ตำรวจที่ในบริเวณนั้นก็เข้ามายุติเหตุการณ์ลง
ทั้งสองคนต่างก็เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ตำรวจฟัง แต่ตำรวจก็ไม่ได้ทำอะไรกับฝรั่งวัยรุ่นคนนั้นเลย ด้วยเพราะว่าภาษาอังกฤษที่ยังไม่แข็งแรงของนักเรียนไทย เลยทำให้ไม่สามารถอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดอย่างละเอียดได้ ในทางตรงกันข้ามฝรั่งวัยรุ่นคนนั้นกลับใช้คำพูดสารพัดเพื่อให้ตัวเองพ้นผิด แล้วตำรวจก็ปล่อยให้เดินลอยนวลจากไป ส่วนนักเรียนไทยคนนี้กลับได้รับ MP3 คืนกับหูฟังพังๆ อีกหนึ่งอัน
ผมก็ขอฝากเตือนภัยวัยรุ่นที่มีเหตุจำเป็นต้องกลับบ้านดึกเอาไว้นะครับ ไปไหนกลางค่ำกลางคืนก็อยู่ห่างๆ ฝรั่งเมามายแบบนี้ เพราะอะไรจะเกิดขึ้นกับเราก็มิอาจรู้ได้นะครับ ส่วนเรื่องของมีค่าก็พยายามเก็บให้มิดชิด ระมัดระวังตัวเพื่อจะได้ไม่กลายเป็นเป้าสายตาไป และที่สำคัญเรื่องภาษาอังกฤษ ก็พยายามพัฒนาทักษะในการพูด ชี้แจงเหตุผลให้ดีๆ เลยนะครับ เผื่อถ้าเกิดว่าต้องรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ตำรวจฟัง จะได้ชี้ชัดแจกแจงรายละเอียดได้อย่างชัดเจนนะครับ