เรื่องทั้งหมดคุณพี่ Saweeya ใช้เวลานานพอสมควร พี่ Saweeya บอกว่าจะว่ายากมากก็ไม่ยากนัก แต่ก็ไม่ง่าย พี่ต้องทำด้วยความระมัดระวังโดยมีทางเอ็มทีทีคอยช่วยแนะนำให้ตลอด ข้อมูลที่ให้ทาง DIMIA ต้องมีหลักฐานประกอบหรืออ้างอิงได้ หลักใหญ่ของการขอวีซ่า เขาจะพิจารณาหนักที่ตัวเอกสาร ดังนั้น เอกสารพี่ต้องแน่นหนา และน่าเชื่อถือ โดยต้องรีบส่งให้ตามเวลาที่กำหนด ซึ่งแสดงถึงความพร้อมให้ความร่วมมือเสมอ อันนี้ ผู้ทำเรื่องให้พี่จะรู้สึกได้ ถึงความร่วมมือของพี่
เรื่องหนึ่งที่พี่ตระหนักในระหว่างยื่นขอวีซ่าถาวร คือ
* มีผู้อื่นยื่นขอจากทั่วโลกเช่นกัน และคงมีจำนวนมากพอสมควร
* ทางรัฐบาล Australia ย่อมต้องพิจารณาอย่างระมัดระวัง
ดังนั้น เราในฐานะผู้ยื่นขอก็ต้องเข้าใจ และพยายามทำให้ดีที่สุดแล้วโอกาส ที่จะได้จะมีสูง
การยื่นเรื่องต้องเสียค่าธรรมเนียมด้วย ได้หรือไม่ได้ ค่าธรรมเนียมไม่ได้รับคืน ค่าธรรมเนียม (มีใบเสร็จจาก DIMIA) ตอนที่พี่ยื่นคิดเป็นเงินไทยประมาณ 7 หมื่นบาท (รวมลูก ๆ ด้วย)
ผม (Marko) ถามพี่ ว่าเพราะอะไรพี่ถึงอยากมาอยู่ที่ ประเทศ Australia พี่ Saweeya บอกว่าที่พี่อยากขอวีซ่า มาใช้ชีวิตที่ Australia มีหลาย ๆ เหตุผล คือ
พี่มองว่าประเทศ Australia เป็นประเทศที่น่าอยู่ มีสันติภาพ เสถียรภาพทางสังคม การเมือง และเศรษฐกิจ เป็นประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโต ให้โอกาสในการทำธุรกิจแก่ประชาชนการศึกษาและมาตรฐานชีวิตดี ซึ่ง ที่อยากให้ลูก ๆ เรียนและอยู่ในสิ่งแวดล้อมเรื่องอาหาร อากาศที่ดี ซึ่งพี่ก็หวังว่าการศึกษาที่ลูก ๆ ได้รับจะพัฒนาให้เขาเป็นที่มีความรู้ ความสามารถ เหตุ และผลและมีโอกาสที่จะนำกลับมาทำประโยชน์ให้ประเทศไทยในอนาคต รวมทั้งมีโอกาสทำประโยชน์ให้กับประเทศ Australia ด้วยเช่นกัน
ทางบริษัทเอ็มทีที อวยพรให้ทั้งสามคนแม่ลูก ปรารถนาสิ่งไหนให้สำเร็จ ตามสิ่งที่ปรารถนา สมดั่งเป็นผู้ฉลาดย่อมรู้ธรรมชาติของการศึกษา